ซวยแล้ว!! “2 ตายาย” มาถอนเงินธนาคาร 2 แสน ก่อนเข้าร้านทอง พนง.พูดคุยไม่กี่ประโยค ตัวสั่น รีบโร่แจ้งความ!!
January 11, 2018
loading...

วันที่ 11 มกราคม 2561 ในสังคมปัจจุบันนี้ กลุ่มมิจฉาชีพ หรือ 18 มงกฎ มักจะสรรหาวิธีหากิน หลอกลวงประชาชน ในรูปแบบต่างๆ ทำให้เหยื่อสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เป็นจำนวนมาก ล่าสุด ได้เกิดเหตุกลุ่มมิจจฉาชีพตุ๋นเงินจากชาวบ้าน ซึ่งเป็น 2 ตายาย ในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยทำกันเป็นขบวนการอ้างว่าเป็นนายหน้าที่ดิน หากขายที่ให้นายทุนได้ ก็จะแบ่งเงินให้ ทำให้ตายายที่ไม่ทันเล่เหลี่ยมพวกโจร เสียรู้ และสูญเงินที่เก็บหอมรอมริบไปจนหมดตัว

โดย ร.ต.อ.สายัณห์ ปัญจรักษ์ ร้อยเวร สภ.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากนายยงยุทธ วงศ์อินทร์ อายุ 73 ปี และนางสำเภา วงศ์อินทร์ อายุ 71 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 195/1 ม.2 ต.ชากพง อ.แกลง ระยอง ว่าได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพ 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1 หลอกลวงให้สูญเงินไป 2 แสนบาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และ เหรียญในหลวง รัชกาลที่ 9 เลี่ยมทอง อีก 1 เหรียญ
นางสำเภา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้ชาย โดยไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าต้องการหาซื้อดินในหมู่บ้านที่ตนอยู่ ด้วยความเอะใจจึงถามไปว่าได้เบอร์โทรมาจากไหน ชายคนดังกล่าวบอกพยายามพูดบ่ายเบี่ยงไป จนทำให้เชื่อว่าต้องการซื้อที่ดินจริง โดยมีนายทุนจะซื้อไปทำโรงงานเจียรเพชร พลอย จนมีการนัดดูที่ดินของคนรู้จักในหมู่บ้านที่ประกาศขายพอดี และได้ขับรถกระบะสีขาวเข้ามาหาที่บ้าน พร้อมนัดว่าจะพานายทุนมาดูใหม่
ต่อมาในวันที่ 8 ม.ค. ชายคนดังกล่าวได้ขับรถเก๋งสีดำคนละคันกับวันแรก เข้ามาหาที่บ้านพร้อมกับหญิงสาวผิวสองสีอายุประมาณ 25 ปี โดยชายคนดังกล่าว อายุประมาณ 40 ปี จึงพาไปดูที่ดินในหมู่บ้านที่ประกาศขาย หลังจากเข้าดูที่ดินแล้ว ทั้งคู่ก็ได้โทรหานายทุน แต่นายทุนบอกทางโทรศัพท์ว่ามีที่ดินอีกแปลงอยู่ที่ต.ห้วยยาง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งตรงกับที่ต้องการ ทั้งคู่ออกอุบาย ให้ตนเอง และนายยงยุทธ สามีนำทางไป บอกว่าจะแบ่งค่านายหน้าให้ โดยนายทุนจะมาดูด้วย จึงตกลงไปด้วยกัน

พอไปถึงที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นสวนผลไม้และสวนยางพารา ก็พบกับชายอีกคน ชื่อนายเสริฐ เจ้าของที่ดิน โดยนายเสริฐ ได้มาบอกกับตนว่า ที่ดินแปลงนี้ต้องการขายเพียงไร่ละ 8 แสนบาท หากขายได้ในราคานี้จะให้ส่วนเกินไร่ละ 1 แสนบาท พอสองคนแรกเดินเข้ามาบอกว่านายทุนจะมาดูที่เลย และยังบอกกับตนและสามีว่า ถ้านายทุนมาให้บอกราคาไร่ละ 1.1 ล้านบาท แล้วจะได้ส่วนต่างแบ่งกัน เพียงครู่เดียวก็มีคนขับรถเก๋งเข้ามาจอดเป็นชายรูปร่างท้วมอายุประมาณ 45 ปี พอลงมาดูที่ดินแล้วก็บอกว่าพอใจ และตกลงซื้อเลย พร้อมทั้งเข้าไปในรถหยิบเงินมาปึกใหญ่ เป็นแบงก์พันให้กับทั้ง 2 คน ดูบอกว่าจำนวน 2 ล้านบาท และทำทีว่าให้จัดการให้ด้วย เจอกันวันโอน มาเอาเงินก้อนนี้ไป จากนั้นก็ขับรถไป
ทั้งหมดจึงเดินมาถาม นายเสริฐว่าโฉนดที่ดินอยู่ไหม นายเสริฐบอกว่า ได้นำไปจำนองที่ร้านทองในตัวเมืองระยอง เป็นเงิน 3 ล้านบาท เพราะเอาเงินมารักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงจำเป็นต้องขายที่ดินนำเงินมารักษาภรรยา ทั้งสองคนก็ทำทีหันมาคุยกับตนและสามีว่า มีเงินสดอยู่ไหม จะนำมาช่วยไถ่โฉนดออกมาก่อน แล้วค่อยคืนให้ในวันรุ่งขึ้น ตอนที่นายทุนนำเงินมาซื้อที่ดิน
นางสำเภาเล่าต่อไปว่า ตนก็บอกว่ามีไม่กี่หมื่นบาท ทั้งคู่พยายามอ้อนวอน และโน้มน้าว และบอกว่าให้สงสารนายเสริฐที่จะได้นำเงินไปรักษาภรรยาที่ป่วย จนกระทั่งตนเองบอกว่ามีเงินอยู่ในธนาคารที่ตัวเมืองระยอง และสร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองและรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 เลี่ยมทอง ทั้งคู่จึงพาขึ้นรถกลับไปเอาสมุดธนาคารที่บ้าน และเงินสดทั้งหมดที่มีอยู่ และรีบพาไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทยสาขาระยอง
โดยตนขึ้นไปเบิกเงินสดมา 4 หมื่นบาทมาขึ้นรถ ทั้งคู่บอกว่าไม่พอตนจึงถอดสร้อยทองให้ไปอีก พร้อมเงินสดอีก 1.6 แสนบาท แล้วพาไปที่ร้านทอง พอจอดรถ ทั้งคู่บอกให้ตนและสามีลงรถไปช่วยบอกร้านทองว่าให้ทำเรื่องไถ่ที่ดินรอไว้ก่อน แล้วจะนำเงินตามลงไปภายหลัง พอไปถึงร้านทองก็ถาม เจ้าของร้านทองก็ถึงกับงงบอกไม่ได้รับจำนองที่ดิน จึงรีบเดินออกจากร้านเพื่อไปที่รถ แต่ก็ไม่พบแล้ว จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว
“พอตั้งสติได้ จึงรีบไปที่สภ.เมืองระยอง ให้ช่วยจับคนร้ายกลุ่มนี้ทันที โดยที่ไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย จึงพยายามโทรติดต่อญาติ แต่ปรากฎว่าเบอร์โทรคนรู้จักที่บันทึกไว้ คนร้ายได้ลบเบอร์ในมือถือออกไปหมด โดยทำทีขอยืมโทรศัพท์ตอนอยู่ในรถ โชคดียังจำเบอร์ญาติได้จึงติดต่อให้มารับตัวกลับ”นางสำเภากล่าว
นางสำเภากล่าวทั้งน้ำตาว่าหมดตัวแล้ว อุตส่าห์อดออมเก็บเงินมากับสามีสองคน เพื่อใช้จ่าย แต่ถูกหลอกไปหมดภายในวันเดียว ซึ่งตนไม่ได้คิดอยากได้เงินเลย เพียงแต่เกิดจากความสงสารเจ้าของที่ดินที่บอกว่าภรรยาป่วยเป็นมะเร็ง จึงอยากช่วย ด้วยความสงสาร แต่กลับโดนหลอก อยากฝากถึงกลุ่มคนร้ายว่าทำไมใจดำกับคนแก่ได้ลงคอ ทั้งๆที่ต้องอยู่ลำพังสองคน ยังไม่หลอกกันได้ จนไม่มีเงินเหลือเลย สำหรับเงินที่ถูกหลอกไปก็ไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว แต่ที่มาแจ้งความก็เพื่อให้จับกุมตัวมาให้ได้ คนอื่นจะได้ไม่ถูกหลอกอีก
From: https://www.siamvariety.com/view-25249.html
0 comments